Website วิชาการ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
อัตราการรอดชีพและปัจจัยที่มีผลต่อการรอดชีพของผู้ป่วยมะเร็งช่องปากที่ได้รับการรักษา ในโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

ภัทร ลำดับพงค์

วันที่เผยแพร่ 13 พ.ย. 2567

บทคัดย่อ

บทนำ
       มะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งผู้ป่วยมักจะได้รับการวินิจฉัยเมื่อโรคอยู่ในระยะลุกลาม ทำให้อัตราการรอดชีวิตลดลง แม้ว่าการรักษาหลัก จะประกอบด้วยการผ่าตัด การฉายรังสีและเคมีบำบัด แต่อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยยังคงขึ้นอยู่กับระยะของโรค ดังนั้น การตรวจพบและการเข้าถึงการรักษาในระยะแรกจึงมีความสำคัญในการเพิ่มโอกาสการรอดชีวิต
วัตถุประสงค์
       เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งช่องปากที่ได้รับการรักษา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
วิธีการศึกษา
       การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบย้อนหลัง (retrospective cohort study) โดยรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งช่องปากที่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ถึง 31 กรกฎาคม 2566 วิเคราะห์ข้อมูลด้วย Kaplan-Meier survival curve และ Cox regression เพื่ออธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการรอดชีวิต
ผลการศึกษา
       จากผู้ป่วย 101 คน มีเพศหญิง 59 คน (58.42%) เพศชาย 42 คน (41.58%) อายุเฉลี่ย 62.53 ปี มะเร็งที่พบบ่อยที่สุดคือบริเวณลิ้น (35.64%) การรอดชีวิตที่ 1 ปี – 5 ปี คือ 96%, 82%, 65%, 51% และ 47% ค่าเฉลี่ยเวลารอดชีวิตอยู่ที่ 53 เดือน ปัจจัยที่มีผลต่อการรอดชีวิตน้อยลง ได้แก่ TNM ระยะ III (aHR = 8.20, p-value < 0.01) และระยะ IV (aHR = 8.12, p-value < 0.01) ผู้ที่ไม่ได้รับการผ่าตัดมีความเสี่ยงต่อ การเสียชีวิต (aHR = 3.15, p-value < 0.01) และการกลับมาเป็นซ้ำ (aHR = 2.25, p-value = 0.02) สูงกว่า
สรุป
       ปัจจัยที่ส่งผลต่อการรอดชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ได้แก่ ระยะของ TNM การรักษาด้วยการผ่าตัดและการกลับมาเป็นซ้ำ โดยผู้ป่วยในระยะ III, IV และผู้ที่ไม่ได้รับการผ่าตัดมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงกว่า
คำสำคัญ
       การรอดชีพ ปัจจัย มะเร็งช่องปาก

PDF (ภาษาไทย)